สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

Shirakawa-go เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ยังคงรักษาเอกลักษ์ที่โดดเด่นความสวยงามเก่าแก่ของหมู่บ้านไว้ จนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยเฉพาะหลังคาทรงสูงของบ้านแต่ละหลัง โดยตัวหลังคาจะเป็นทรงจั่ว ตัวหลังคาทำจากไม้ หญ้าคา ดินเหนียว และมีความหนามาก เพื่อที่จะรองรับน้ำหนักของหิมะและฝนได้ แต่ความสวยงามก็ต้องแลกมาด้วยการบำรุงรักษาที่บ่อยมากขึ้น เพราะทุกอย่างล้วนสร้างมาจากธรรมชาติ จึงต้องมีการซ่อมบำรุงเป็นระยะ โดยการซ่อมบำรุงครั้งนึงจะใช้คน 100-300 คน ในการซ่อมบำรุงบ้าน 1 หลัง ในหน้าร้อนก็จะมีการฉีดน้ำหล่อเลี้ยงหลังคาเพื่อป้องกันวัสดุธรรมชาติที่นำมาใช้ทำหลังคาไม่ให้เกิดไฟไหม้ เวลาเปิด-ปิด • ไม่มี สามารถจองที่พัก พักที่หมู่บ้านได้ (อชิยังไม่เคยใช้บริการ) ค่าเข้า • ฟรี Website • http://shirakawa-go.org/english/ ตากล้อง • จุดชมวิว ไม่สามารถใช้ขาตั้งได้ ต้องใช้บริการของจุดชมวิว อชิมีโอกาสได้ไปสัมผัสมาในช่วงฤดูหนาว ตอนแรกเป็นตัวเลือกที่ลังเลมากว่าจะไปหรือไม่ไปดี เพราะทริปหลักการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ของอชิอยู่ที่โอซาก้า จะจองรถบัสไปจากโอซาก้าไป Kanazawa , Takayama ก็เต็มหมด(จะประหยัดสักหน่อย) เลยต้องหาข้อมูลใหม่ก็ไปเจอ Takayama-Hokuriku Pass …

ชินเซไก – Shinsekai (新世界) แปลว่า โลกใหม่ ในย่านนี้ถือว่าเป็นแหล่งกินดื่มของชาวญี่ปุ่นอีกแห่งนึง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่ที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาถ่ายรูปเมื่อมาเที่ยวโอซาก้า ในย่านนี้จะมีสีสรรในตอนกลางคืน แม้ช่วงกลางคืนอาจจะสู้ย่าน Dotonbori นัมบะ ไม่ได้ แต่ก็ไม่ควรพลาดที่เพื่อนๆ จะมาเที่ยวแวะกิน แวะถ่ายรูป แล้วถ้าเพื่อนๆ แวะมาถ่ายรูปในตอนกลางวันก็จะได้อีกบรรยากาศนึง สัญลักษณ์เมื่อเรามาย่านชินเซไกที่เราจะพบเจออยู่ตลอดเส้นทางคือ บิลลิเคน (Billikan) เป็นเทพแห่งโชคลาภ ลักษณะจะเป็นรูปปั้นนั่งยิ้มอยู่ตามหน้าร้านในย่านนี้ อาหารขึ้นชื่อในย่านนี้จะเป็นคุชิคาสึ(kushikatsu) เป็นอาหารเสียบไม้แล้วนำไปจุ่มน้ำมันทอดมีทั้งไก่ เนื้อ หมู ผัก ยังมีอาหารอย่างอื่นให้เราได้ละลายทรัพย์อีกหลายประเภท มาที่นี่รับรองว่าอิ่มท้องแน่นอน สถานที่ท่องเที่ยวบริเวณ ชินเซไก (Shinsekai) หอคอยซึเทนคาคุ(Tsutenkaku) เวลาทำการ : 9:00 to 21:00 (entry until 20:30) Open-air deck from 10:00 to 18:00 (entry until …

Universal Studios Japan : USJ เป็นสวนสนุกใหญ่แห่งหนึ่งในแถบโอซาก้า ซึ่งใหญ่ไม่แพ้สวนสนุกชื่อดังอย่าง Disney Land, Disney Sea ที่โตเกียว ภายในสวนสนุกจะมี Zone แบ่งเป็นหลาย Zone ให้เพื่อนๆ ได้เข้าไปถ่ายรูปเล่น รวมถึงยังมีกิจกรรมพิเศษระหว่างวันให้ผู้ที่สนใจได้ชมกันแบบใกล้ชิดอย่างเช่น ขบวนพาเหรด, Water world ส่วนเวลาของแต่ละกิจกรรมเราก็สามารถขอได้ที่ Guest Service ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งซ้ายมือหลังจากที่เราเข้ามาภายในสวนสนุกแล้ว อย่าลืมแวะไปขอตารางเวลากิจกรรมกันก่อน จะได้รู้ว่าภายในวันนั้นมีกิจกรรมอะไรที่น่าสนใจ เวลาไหนบ้าง เครื่องเล่นโดยรวมจะเน้นไปในการนั่งดู 3D, 4D จะมีเครื่องเล่นหวาดเสียวอยู่แค่ 2 อย่างเท่านั้นเอง คือ Hollywood Dream – The Ride กับ Flight Of The Hippogriff และตอนนี้ทาง USJ ก็ได้เปิดตัวเครื่องเล่นใหม่(คิวยาวมาก) The Flying …

วัดคิโยมิซึ ( Kiyomizu Temple ) : 清水寺 หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า วัดน้ำใส เป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวแวะมาท่องเที่ยวมากเป็นอันดับต้น ๆ ของเกียวโต วัดนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เพราะการจะเข้าไปเยี่ยมชมวัดน้ำใสนี่นั้นจะเดินเดินขึ้นเนินเกือบ ๆ 1 กิโลเมตร อาจจะไม่เหมาะนักกับผู้สูงอายุที่ขาไม่แข็งแรง ซึ่งในระหว่างทางที่ต้องเดินเพื่อจะมุ่งไปสู่ตัววัดน้ำใส ตลอด 2 ฝั่งระหว่างเดินจะมีร้านค้าขายของมากมายตลอดเส้นทาง ทั้งของที่ระลึก ขนม ไอศครีม ที่จะมาดึงดูดให้เราแวะชิม แวะเลือกซื้อกัน เพลิดเพลินไปกับสินค้าที่น่าสนใจ รวมทั้งยังต้องเดินผ่าฝูงคนที่แวะมาท่องเที่ยวที่วัดแห่งนี้อีกด้วย บริเวณโดยรอบของวัดน้ำใสเรายังสามารถจะพบเห็นคนแต่งชุดยูกาตะและชุดกิโมโนมากมาย หรือเพื่อน ๆ จะเช่าชุดมาใส่เดินเล่นเพื่อจะเดินเก็บภาพให้เข้ากับบรรยากาศเมืองเก่า วัดเก่า ที่เกียวโตตลอดวันก็ได้ วัดน้ำใส ยังสามารถแวะมาเที่ยวชมได้ถึง 4 ฤดู ความสวยงามในแต่ละฤดูก็จะแตกต่างกันไป ฤดูหนาวถ้าโชคดีเจอหิมะตกก็จะเห็นบรรยากาศขาวโผลนชวนฝัน ฤดูซากุระบานวัดแห่งนี้ก็จะเต็มไปด้วยสีชมพู ฤดูใบไม่ผลิก็จะพบเจอกับต้นไม้หลากสีสัน(สวยมาก) ส่วนถ้าใครไปฤดูร้อนหรือฝนก็จะเขียวขจีไปด้วยต้นไม้ ถือเป็นเสน่ห์ของประเทศญี่ปุ่นอย่างนึง ที่ทำให้แต่ละสถานที่สามารถแวะมาเที่ยวได้หลายครั้ง ใครที่แวะมาเที่ยวเกียวโตหรือโอซาก้าก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวที่วัดน้ำใสกันนะไม่ผิดหวังแน่นอน ส่วนอชิไปเจอฤดูใบไม้ร่วงโกร๋นหมดแล้ว โชคดีที่ยังคงมีใบไม้เปลี่ยนสีหลงเหลือให้อชิได้เห็นอยู่บ้างประปราย เวลาเปิด-ปิด …

วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) : 金閣寺 หรือที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ อีกชื่อว่า วัดทอง แต่อย่าเผลอไปเรียกที่ต่างบ้านต่างเมืองนะ ฮา ๆ เมื่อมาถึงหน้าวัดเราจะเห็นทางเข้าที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ที่สูงใหญ่ เดินตรงเข้าไปไม่ไกลนักก็จะเจอจุดขายบัตรเข้าชมวัดทอง ไฮไลท์หลักก็คงไม่พ้นตัวปราสาทสีทองอร่าม โอบล้อมไปด้วยลำธารน้ำใส ต้นไม้ และสวนสไตล์เซนซึ่งสวยงามในแบบฉบับของญี่ปุ่น ถ้าใครโชคดีเจอฟ้าที่สดใส แสงแดดและลมเป็นใจ ก็จะเห็นเงาสะท้อนตัวปราสาทจากลำธารนับว่าเป็นภาพที่สวยงามมาก เมื่อเราเดินผ่านวัดทองเข้าไปจะเป็นทางเดินขึ้นเนินไปเพื่อชมวิวในมุมอื่น ๆระหว่างทางก็จะปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่โต บรรกาศร่มรื่นและยังมีจุดขายของที่ระลึกอยู่ระหว่างทาง ส่วนใครที่เริ่มปวดขา อยากเก็บแรงไปสถานที่อื่นต่อ ไม่อยากเดินขึ้นเนิน ก็สามารถเข้าไปถ่ายรูปกับมุมมหาชนและเดินย้อนกลับไปทางเข้าได้ซึ่งเดินไม่ไกลมากนัก บริเวณรอบนอกก่อนทางเข้าไป วัดทอง จุดตรงข้ามทางเข้าของวัดทองจะมีร้านค้าเล็กๆ ให้แวะเติมพลัง ใครหิวก็แวะทานแวะชิมกันตามสะดวก ส่วนทางด้านซ้ายที่ติดกับร้านค้าจะเป็นจุดไว้สำหรับขึ้น Taxi ถ้าใครไม่ได้เดินทางด้วยรถบัสก็สามารถมาขึ้นได้ที่จุดนี้ เวลาเปิด-ปิด • 9:00 น. – 17:00 น. ค่าเข้า • ผู้ใหญ่ : ¥ 400 , …

ใครที่แวะมา เที่ยวโอซาก้า ก็ต้องห้ามพลาดแวะไปถ่ายรูปคู่กับแลนด์มาร์คสำคัญของโอซาก้านั่นคือ Osaka Castle บริเวณโดยรอบปราสาทก็มีสวน ซึ่งถ้ามีโอกาสได้แวะมาช่วงซากุระหรือช่วงใบไม้เปลี่ยนสีละก็ เพื่อนๆจะโดนต้นไม้บริเวณรอบปราสาทโอซาก้า ดูดเวลาไปอย่างแน่นอน เพราะจะมีอะไรให้เราถ่ายรูปเล่นได้ตลอดทางการเดิน ปกติระยะทางจากรถไฟฟ้าเดินไปถึงตัวปราสาทจะใช้เวลาประมาณ 15 – 25 นาที ถ้าเจอสีสันของต้นไม้ในฤดูดังกล่าวอาจจะใช้เวลาร่วมชั่วโมงกันเลย!! ตัวปราสาทจะถูกบูรณะซ่อมแซมอยู่ตลอดเวลา แต่ยังคงความสง่างามของตัวปราสาทไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ภายในปราสาทโอซาก้าจะมีทั้งหมด 8 ชั้น ในส่วนของชั้นที่ 3 และ 4 นั้นจะมีป้ายห้ามถ่ายรูป นอกเหนือจาก 2 ชั้นที่ได้กล่าวไปสามารถถ่ายรูปได้ปกติทุกชั้น ในชั้นที่ 8 สามารถขึ้นไปชมวิว 360 องศาบนตัวปราสาทโอซาก้า สามารถมองเห็นวิวสวยงามบริเวณโดยรอบปราสาท การแวะเที่ยวที่นี่สามารถเลือกได้ 2 แบบ บางคนก็แวะมาแค่ถ่ายรูป ไม่ได้เข้าชมภายในตัวปราสาท ส่วนใครที่จะเข้าชมก็ต้องซื้อบัตรเพื่อเข้าไปชมภายในปราสาทโอซาก้า แต่ถ้าใครมี Amazing Osaka Pass ก็สามารถเข้าชมได้ฟรี ส่วนใครหิวน้ำหรือข้าว บริเวณใกล้ทางเข้าปราสาทโอซาก้าจะมีจุดขายของอยู่พวกขนมทานเล่น น้ำ เผือกปิ้ง …

สมัยก่อนบริเวณนี้จะเป็นท่าเรือการค้าระหว่างประเทศมาก่อน แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วของโอซาก้า แหล่งท่องเที่ยวบริเวณนี้เหมาะกับทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะครอบครัว โดยรอบบริเวณนี้จะมีทั้ง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Kaiyukan , Temp0zan Ferris Wheel , เรือ Santa Maria และ Tempozan Market Place เหมาะแก่การพาเด็กๆ มาชมสัตว์โลกใต้ทะเล หรือจะไปนั่งชิงช้าเพื่อชมบรรยากาศของอ่าวโอซาก้า สถานท่องเที่ยวบริเวณ Tempozan พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Kaiyukan บัตรเข้าชม : 2,300 เยน เมื่อเข้าไปภายใน Kaiyukan Osaka Aquarium เราจะต้องเดินรอดอุโมงค์ใต้ทะเลเพื่อที่จะเข้าสู่โลกใต้ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดโอซาก้า ภายในมีสัตว์น้ำแปลกๆหายากหลากหลายชนิดให้เพื่อนๆได้ชื่นชมและถ่ายรูป โดยเฉพาะพระเอกของที่นี่อย่างเจ้าฉลามวาฬ Tempozan Ferris Wheel บัตรเข้าชม : 700 เยน (ใครมีบัตร Amazing Osaka Pass ขึ้นฟรี) ชิงช้าสวรรค์ที่มีขนาดใหญ่มาก มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางถึง …

สำหรับใครที่ไปเที่ยวโอซาก้าแล้วอยากสัมผัสบรรยากาศสัตว์ใต้ทะเล ก็ต้องจัด อควาเรี่ยมไคยูคัง Kaiyukan Osaka Aquarium ให้เข้าไปอยู่ในทริป ซึ่งการเดินทางก็ไปไม่ยาก เปิดแผนที่เล็งไปที่สถานี Osakako ก็สามารถพาเพื่อนๆ ไปถึง KAIYUKAN Aquarium ภายในจะแบ่งเป็นโซนหลายโซน ทั้งป่า โลกใต้ทะเลที่เราต้องขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อไปตั้งต้นที่ชั้นบน แล้วเดินตามทางวนลงมาเรื่อย ๆ ชมสัตว์น่ารัก ความอลังการของโลกใต้ทะเล รวมทั้งพระเอกอย่างเจ้าฉลามวาฬ ก่อนที่จะถึงทางออกยังมีโซนที่เปิดให้เราสัมผัสปลาเป็น ๆ อย่างปลากระเบนและปลาฉลามตัวน้อย ก่อนที่เราจะไปลองจับปลาก็ต้องไปล้างมือตามคำแนะนำของสถานที่และอ่านวิธีการจับปลาให้ถูกต้องด้วยเพื่อความปลอดภัย ยังไม่หมดแค่นั้นยังมีที่ดูดทรัพย์อีกนั้นคือ Museum Shop ใครใจไม่แข็งเตรียมเสียเงินได้เลยเพราะมีของน่ารัก เยอะแยะให้เราเลือกชมกันในภายในร้านของที่ระลึกนี้ โดยส่วนตัวแล้วที่นี่เพื่อน ๆ น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ยกเว้นแต่ว่าเป็นคนชอบนั่งชิว ชิว ชมสัตว์ใต้ทะเลแหวกว่ายในน้ำ หรือสัตว์น่ารักๆ แปลกประหลาด ก็อาจจะต้องเพิ่มเวลาเข้าไปอีก บริเวณโดยรอบของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้า ก็ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่นอีก ที่ตั้งอยุ่ใกล้ Kaiyukan Osaka Aquarium อาทิ Tempozan Market …

Arashiyama : อาราชิยาม่า นับว่าเป็นจุดธรรมชาติที่น่าสนใจแห่งหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ของเกียวโต ซึ่งถ้าใครที่มีแพลนไป เที่ยวโอซาก้า หรือเที่ยวเกียวโต และอยากชมบรรยากาศธรรมชาติวิวสวยงาม อชิแนะนำว่าไม่ควรพลาดด้วยประการใด ยิ่งประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีหลายฤดู ทำให้เราสามารถกลับมาแวะเที่ยวที่อาราชิยาม่าได้หลายรอบด้วยวิวที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละฤดูที่เราไปเที่ยวญี่ปุ่น การเดินทางก็ไปได้ไม่ยากอีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้โอซาก้าและเกียวโต ถ้าเพื่อนคนไหนจะแวะมาเที่ยวก็สามารถจัดแผนได้ 2 อย่างคือ จะเลือกเที่ยวเฉพาะอาราชิยาม่าทั้งวัน หรือจะเที่ยวแค่ครึ่งวันเช้า ตอนบ่ายก็ไปไปเก็บวัดหลัก ๆ ที่เกียวโตต่อก็ได้ (แต่เหนื่อยหน่อยนะอชิก็อัดแน่น เช้าธรรมชาติ บ่ายไปวัด ค่ำนอนหมดแรงงง) จุดท่องเที่ยวสำคัญของ Arashiyama สะพานโทเง็ตสึเคียว : Togetsukyo Bridge ค่าเข้าชม : ฟรี สะพานโทเง็ตสึเคียว ถือเป็นจุดถ่ายรูปอีกจุดหนึ่งที่นั่งท่องเที่ยวต้องแวะมาเก็บภาพ สะพานโทเง็ตสึเคียวเป็นสะพานทอดยาวข้ามแม่น้ำที่ใส วิวสองข้างทางของแม่น้ำจะมีต้นไม้ประดับทอดยาวไปตลอดสาย ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถเดินเก็บบรรยากาศหรือจะพกอาหารมานั่งรับประทานตามริมแม่น้ำเพื่อซึมซับความสวยงามก็ได้ ส่วนทางด้านหลังจะมีภูเขาเป็นพร้อบประกอบ เติมเต็มความสวยงามของธรรมชาติให้แก่ตัวสะพานโทเง็ตสึเคียว ให้สวยงาม ยิ่งถ้าใครได้มีโอกาศได้แวะมาในฤดูใบไม้ร่วง ภูเขาทางด้านหลังสะพานจะยิ่งมีสีสันที่สวยงามมากขึ้นไปอีก อชิก็ได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวตอนช่วงใบไม้ร่วงเหมือนกัน แต่………..เป็นใบไม้ร่วงแล้ว จึงเป็นดั่งภาพที่เพื่อนๆเห็น Tenryuji Temple …

Umeda ถือว่าเป็นย่านที่สำคัญของโอซาก้า เป็นแหล่งธุรกิจ รวมถึงยังมีห้างสรพพสินค้าใหญ่โตหลายห้างรวมไว้ในย่านนี้ อุเมดะจะมีสถานีรถไฟหลักๆ อยู่ 2 สายนั้นคือ Umeda(Subway) และ Umeda(Hankyu) ใกล้ๆ ก็ยังมีสถานีรถไฟใหญ่ Osaka ซึ่งสามารถเดินเชื่อมถึงกันอีกด้วย เห็นเค้าว่ากันว่าใครมาเดินแถวสถานีนี้ต้องหลงกันเกือบทุกราย ย่านนี้อชิแวะไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่ มาช้อปปิ้งแค่วันสองวันก็ไม่ได้แวะมาแล้ว ข้อมูลอาจจะไม่เยอะเท่ากับย่านนัมบะนัก ห้างหลักๆของย่านนี้คงหนีไม่พ้น ห้าง Hankyu, ห้าง Yodobashi, ห้าง Hep 5 และยังมีห้างอีกหลายห้างที่อชิไม่ได้แวะเข้าไป ใครที่เป็นขาช้อปที่มาแวะเที่ยวโอซาก้าก็อย่าลืมแวะมาเดินเล่นที่อุเมดะกันนะ ช้อปเพลิน ช้อปมันส์แน่นอน ห้าง Hankyu ห้างนี้เป็นห้างใหญ่มีสินค้าแบรนด์มากมาย ซึ่งจะมีทั้งหมด 13 ชั้น ชั้น 12 และ 13 จะเป็นโซนร้านอาหาร ชั้น 13 อาหารจะแพงกว่าชั้น 12 พอสมควร ส่วนใครที่จะมาซื้อของที่ห้างนี้อชิแนะนำให้ไปแลกบัตรลด 5% ก่อนเลย …