แผนการเดินทางวันที่ 1 : สนามบินสุวรรณภูมิ | Sensoji Temple | ซื้อของลูก
ไปเที่ยวญี่ปุ่นรอบนี้มีผู้ร่วมเดินทางทั้งหมด 6 คน เด็กเล็ก 2 คน รวมเป็น 8 คน โดยอกิได้จองตั๋วให้ตรงกับเวลาที่ลูกเข้านอน ได้ตั๋วของสายการบิน ANA ตัดสินใจไม่ยากเพราะอกิชอบสายการบินนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ครั้งนี้ขอบอกเลยว่า..สัมภาระเยอะมาก(ของคุณลูกทั้งนั้น) เมื่อมาถึงสุวรรณภูมิอกิก็แวะไปเอา Pocket Wifi ที่ได้จองไว้ โดยจะอยู่ชั้นเดียวกับแอร์พอร์ทลิ้งค์ หลังจากรับ Pocket Wifi เรียบร้อยก็ไปทำการ Check-in อกิไปถึงสนามบินกันก่อนเวลาพอสมควร เค้าเตอร์ที่ต้อง Check-in เลยยังไม่ค่อยมีคน เดินเข้าไปโหลดกระเป๋ากันสบายๆ อกิขอนอกเรื่องนิดนึงตอนที่ไปโหลดกระเป๋า รถเข็นเด็กคุณแม่สามารถเข็นเข้าไปด้านในบริเวณ Duty Free ได้จนถึงหน้า Gate ก่อนขึ้นเครื่องบินเลย บริเวณหน้า Gate จะมีแอร์หรือเจ้าหน้าที่มาคอยรับรถเข็นของเรา หรือคุณแม่จะโหลดรถเข็นตรงจุด Check-in เลยก็ได้นะคะ ส่วนเรื่องขวดนม อกินำขึ้นเครื่องไป 2 ขวด โดยใส่น้ำต้มสุกเตรียมไว้เลยค่ะ นมผงก็แยกใส่ไว้ในอุปกรณ์แบ่งนม เมื่อไปถึงจุดตรวจก็ให้คุณแม่แจ้งเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสัมภาระหลังจากผ่าน ตม มาแล้วว่าเราพกขวดนมเด็กมาด้วย ก็ผ่านมาได้ฉลุย สามารถนำขึ้นเครื่องได้ปกติ
*ขั้นตอน Check-in , ตม, ขึ้นเครื่องบิน เราสามารถใช้สิทธิ์ Priority ได้ ถ้ามีเด็กเล็กมาด้วย
เมื่อมาถึงหน้า Gate ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บรถเข็นของคุณลูกไป เราก็นั่ง รอ..รอ… รอจนถึงเวลาขึ้นเครื่อง ก็จะมีเจ้าหน้าที่เรียกให้ขึ้นเครื่อง โดยเรียกตามลำดับประเภทตั๋ว / แถวที่นั่ง ส่วนอกิก็ใช้สิทธิ์ Priority ขึ้นเครื่องพร้อมตั๋วประเภท First Class/Bussiness Class กันไปเลยไม่ต้องไปต่อแถว เดินชิว ชิวไปที่นั่ง เก็บสัมภาระเรียบร้อยก็ใกล้ถึงช่วงเวลาตื่นเต้นที่กำลังจะมา….ข้อมูลที่หาไว้จะได้นำมาใช้ก็ตอนนี้แหละ!!

ภาพ : lazada.co.th
ก่อนเครื่องจะขึ้นสิ่งที่ต้องเตรียมเลยคือนมกับขนม ขนมอกิซื้อยี่ห้อโดโซะสำหรับเด็กมา ห่อสีเหลืองๆ อกิขอเรียกขนมเทพ เพราะช่วยได้ทุกสถานการณ์จริงๆ ทั้งบนเครื่องบิน, รถไฟฟ้า, ร้านอาหาร ปกติจะไม่ให้กินขนมเลยเวลาเลี้ยงที่บ้าน แต่สถานการณ์มันจำเป็นต้องใช้ อกิเลยจำใจต้องยอมให้กินเพื่อความสงบ ^^. พอเครื่องบินเริ่มเคลื่อนที่ได้สักพัก อกิก็พาอกิน้อยมาเข้าเต้าเพื่อกินนม แต่เครื่องบินวิ่งนานเหลือเกินเกือบ ๆ 20 นาที ไม่ขึ้นสักที ในใจก็แอบลุ้นอย่าให้อกิอิ่มก่อนเครื่องจะขึ้น วันนี้อกิน้อยกินนมเก่งเป็นพิเศษเลยก็เลยผ่านไปได้ด้วยดี เวลาเครื่องบินขึ้นเราต้องนำลูกมารัดเข็มขัดกับคุณแม่ด้วยนะคะ ระหว่างทางมีร้องบ้างนิดหน่อย อกิก็จะให้อกิเข้าเต้าเวลาเค้าร้อง ส่วนหลานอีกคนก็ร้องบ้าง คุณแม่/คุณพ่อก็ต้องผลัดกันอุ้มพาเดิน น้องก็จะเงียบ ถือว่าเป็นการบินครั้งแรกของเด็กทั้ง 2 ที่โชคดี ไม่มีร้องงอแงรบกวนคนอื่นตั้งแต่ตอนเครื่องขึ้นและเครื่องบินลงเลย

พอถึงญี่ปุ่นก็ได้ใช้สิทธิ์ Priority ผ่าน ตม แต่..แต่… ตม ที่นี่ทำไมให้แต่คุณแม่ไปกับคุณลูกแค่ 2 คน หรืออกิไม่รู้ระเบียบก็ไม่ร้ คุณพ่อ คุณปู่ คุณย่า ก็ต่อคิว ตม กันไปยาวๆ อกิก็ต้องออกมายืนอยู่อยู่ดี ฮาฮา หลังจากรับกระเป๋าเสร็จ อกิก็เดินไปซื้อตั๋ว Skyliner เพราะครั้งนี้มีเด็กเล็กไปด้วย 2 คน สัมภาระก็เยอะมาก อกิขอเน้นสะดวกสบายไว้ก่อน ราคาของ Skyliner อยู่ที่ 2,470 เยนต่อคน เด็กเล็กขึ้นฟรี ถ้าใครซื้อแบบออนไลน์มาก็จะได้ราคา 2,200 เยน

คืนแรกอกิพักกันที่โรงแรม Sardonyx Ueno ตัวโรงแรมตั้งอยู่ใกล้ตลาด Ameyoko, ตึกม่วง และเดินไม่ไกลจากสถานี Ueno ถือว่าทำเลผ่านค่า ที่เลือกโรงแรมนี้เพราะเดินลากกระเป๋าไม่ไกล ข้ามถนนแค่แยกเดียว แล้วเดินลากกระเป๋ามาอีกไม่ไกลก็ถึงโรงแรม ฝั่งตรงข้ามโรงแรมก็มีเซเว่น ที่โรงแรมมีอาหารเช้ามื้อเล็กๆ ที่นี่เมนูแพนเค้กและไส้กรอกอร่อยทั้ง 2 เมนูเลย แต่จุดที่อกิตัดสินใจเลือกโรงแรมนี้คือสามารถฝากกระเป๋าข้ามคืนได้ถ้าหากเรายังกลับมาพักที่โรงแรมนี้ต่อ
หลังจากทำการฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมเสร็จเรียบร้อย ก็มุ่งหน้าไป วัดเซ็นโซจิ หรือวัดอาซากุสะตามแผนที่วางไว้ก่อนเลย โดยอกิเดินย้อนกลับไปขึ้นรถไฟที่สถานี Ueno(G16) นั่งสาย Ginza Line ไปลงสถานี Asakusa(G19) สมาชิกเริ่มบ่นหิวข้าวกันแล้ว อกิน้อยก็ใกล้ถึงเวลาหม่ำๆ เหมือนกัน เลยตัดสินใจแวะทานข้าวเทมปุระ ร้านจะอยู่ก่อนถึงทางเข้าวัดเซ็นโซจินิดนึง อกิต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ถ่ายรูปหน้าร้านมา เพราะของเยอะแยะไปหมดออกทริปกับลูกน้อยครั้งแรกออกจะวุ่นๆพอสมควร ฮาๆ

ร้านนี้อกิน้อยก็ไปสร้างวีรกรรม(ที่ดี)ไว้ที่ร้านนิดนึง คืออกิกำลังรีบทานข้าวเพราะกลัวเจ้าตัวเล็กจะป่วนหรือร้องไห้ แต่ผิดคาดอกิน้อยก็คลานดึ้บๆ ไปเล่นกับโต๊ะคนญี่ปุ่นด้านหลัง ซึ่งปกติอกิน้อยจะเป็นเด็กที่กลัวคนอื่นมากๆ ใครอุ้มนิดอุ้มหน่อยเป็นร้องไห้ แต่นี่กลับไปนั่งเล่นกับเค้าหน้าตาเฉย น้องผู้หญิงเด็กญี่ปุ่นก็น่ารัก มาเล่นกับอกิน้อย สนุกสนานกันไป รวมทั้งครอบครัวของคนญี่ปุ่นด้วยที่มาเล่นกับอกิน้อย อกิก็หมดห่วงไป 1 มื้อ เพราะอกิน้อยมีเพื่อนเล่นแล้ว สบายยยย หลังจากทานข้าวเสร็จก็ออกไปเดินถ่ายรูปเล่น ซื้อของตรงถนน(ละลายทรัพย์)ก่อนที่จะถึงตัววัด อากาศก็เริ่มเย็นเพราะเหมือนฝนจะตก เด็กๆ นอนหลับในรถเข็นกันสบายเลยทุกอย่างเป็นไปอย่างราบเรียบมากๆ

ตะตะ…แต่ช่วงที่เรากำลังจะเดินทางจาก วัด Asakusa เพื่อไปซื้อของที่ร้านขายของเด็ก Akachan honpo อกิก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับเราจนได้ อกิน้อยอึจ้าา ถ้าอึปกติยังไม่เป็นไร นี่อกิน้อยเล่นอึทะลักออกมาจากแพมเพิสเปื้อนกางเกงเลยจ้า แบบว่าล้นมาก โชคดีที่อกิเตรียมกางเกงสำรองติดกระเป๋าไว้ตลอดในแต่ละวัน มาถึงวันแรกก็ได้ใช้เลย ตรงจุดเกิดเหตุในสถานี Asakusa ก็ไม่มีห้องน้ำให้เปลี่ยนอีก อกิเลยต้องพาเข้ามุมใกล้ๆ ถังขยะ แล้วช่วยกันยืนบัง แล้วอุ้มอกิน้อยเปลี่ยนแพมเพิสกันตรงนั้นเลย ออกจะวุ่นวายนิดๆ ฮาฮา จุดหมายต่อไป อกิจะไปร้าน Akachan honpo ตั้งอยู่แถวสถานีรถไฟ Kinshicho การเดินทางก็ไม่ยาก
- นั่งรถไฟสาย Asakusa Line ที่สถานี Asakusa (A18) นั่งไปลงสถานี Oshiage(Skytree)(A20)
- เปลี่ยนไปขึ้นสาย Hanzomon Line ที่สถานี Oshiage(Skytree)(Z14) นั่งไปลง Kinshicho(Z13)

ออกมาจากสถานีก็เลี้ยวซ้าย เราจะเจอตึกที่มีร้าน Akachan honpo ตั้งอยู่ในชั้น 5 ช่วงเวลานี้ก็ไม่มีอะไรนอกจากเดินซื้อของให้อกิน้อย สาขานี้กว้างมากค่า ดูไม่วุ่นวายเหมือนสาขาแถวๆ Hommachi ที่ Osaka (สาขานี้ปัจจุบันคนจีนเยอะมากๆ) ร้านนี้เราสามารถทำ Tax Free ได้ด้วยนะคะ เมื่อซื้อของครบ 5,000 เยน วันแรกของอกิน้อยก็ผ่านไปได้ด้วยดี อกิน้อยมีแอบวางระเบิดเลอะเทอะนิดหน่อยเท่านั้น เหนื่อยแต่สนุกดีค่ะ